วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

อยากรู้เรื่อง การใช้ was were


was และ were แปลว่า เป็น,อยู่,คือ
ใช้ในอดีต (past simple)
was ใช้กับประธาน I, he, she, it เป็นต้น หรือที่เรียกว่า สรรพนามเอกพจน์ หรือ บุคคลหนึ่งคน
were ใช้กับประธาน we, they เป็นต้น     หรือ              สรรพนามพหูพนจ์ หรือ บุคคลหลายๆ คน

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555

Articles หมายถึง


การใช้ Articles
1 Articles หมายถึง คำนำหน้านาม แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
1.1 “a” หรือ “an” เรียกว่า Indefinite Articles
1.2 “the” เรียกว่า Definite Articles
2. Indefinite Articles นำหน้านามเอกพจน์เท่านั้น ให้สังเกตคำนำหน้านามที่เป็น indefinite article ต่อไปนี้
a horse
an elephant
a car
an airplane
the Pacific
the air
จะสังเกตได้จากการใช้ a, an, the นั้น จะขึ้นอยู่การออกเสียงของคำ ซึ่งตามหลัง a, an หรือ นั้น มิใช่ขึ้นอยู่กับการสะกดคำ ดังนี้
a uniform (ไม่ใช้คำว่า an uniform) เพราะคำนี้อ่านออกเสียงตามพยัญชนะ คือ ยู
a one-eyed man (ไม่ใช้คำว่า an one eyed man) เพราะคำว่า one ออกเสียงด้วยพยัญชนะ ว
จึงอาจสรุปได้ดังนี้
1. a ใช้นำหน้านามเอกพจน์ที่ออกเสียงแรกด้วยพยัญชนะ ดังนี้
a shoe
a European
a car
a useful tool
a cow a ewe
a university
a union
2. ใช้ “an” นำหน้านามซึ่งตามหลังมา และนามนั้นออกเสียงเป็นเสียงสระ (เสียงสระคือเสียงที่เปล่งออกมาเป็นเสียง “ออ” เช่น an accident an hour
an egg
an honour
an orange
an honest man
an interesting book
an heir
an S. an M.A.
3. กฎของ Articles มี 3 ประการ คือ
1. ห้ามใช้ “the” กับนามพหูพจน์ และนามนับไม่ได้ เมื่อกล่าวถึงสิ่งต่างๆ โดยทั่วไปเช่น A church is usually cool
2. ห้ามใช้นามนับได้กับเอกพจน์ โดยไม่มี articles เช่น the book, a book แต่ไม่ใช่ book
3. ใช้ a หรือ an นำหน้าอาชีพ หรืองานบุคคล เช่น She is a doctor (ใช้ she is doctor) ไม่ได้
4. การใช้ articles
4.1 การใช้ indefinite articles (a/an)
1) ใช้ในความหมาย “หนึ่ง” หรือ “any” เช่น
He has a brother
2) ใช้ในการบอกหน่วยการวัด a, an มีความหมาย = ต่อ
He drove the car at 100 miles an hour
This Thai silk costs two hundred baht a yard
3) ใช้นำหน้า dozen, hundred, thousand, million, billion
I bought a dozen book
A hundred cows were in the field
4) ใช้นำหน้านามที่บอกอาชีพ การค้า ศาสนา เป็นต้น
She is a doctor
She is an official in the bank
She is a Buddhist
แต่ถ้านามนั้นบ่งถึงตำแหน่ง หรือสำนักงานซึ่งกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งมีเพียงครั้งละผู้เดียวไม่ต้องใช้ a/an
The made him Prime Minister
Kanittha was Professor of Development Education
ไม่ต้องใช้ a/an กับคำนามที่บอกยศ (rank หรือ title)
My friend gained the rank of Coronel
5). ใช้ a, an เมื่อเป็นการอ้างถึงบุคคลที่เรารู้จักแต่เพียงชื่อ
A Mr. Johnson telephoned you this morning
(ใช้ a แสดงว่าไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร แต่เขาบอกว่าชื่อ Mr. Johnson
6) ใช้ a, an กับนามที่ซ่อนนามตัวหน้า (noun in apposition) เมื่อสิ่งนั้นหรือคนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคย
Sunthhornphoo is Thai poet
Daotho, a small village in Chiangmai

7). ใช้ a/an กับประโยคอุทานที่ขึ้นต้นด้วย What
What a beaufiful girl she is !
What an ugly man he is !

แต่ถ้าประโยคอุทานที่ขึ้นต้นด้วย what นั้น ตามด้วยนามนับไม่ได้ หรือนามพหูพจน์ไม่ต้องใช้ a/an นำหน้านาม
What + นามนับไม่ได้ + S+V
ตัวอย่าง “What lovely flowers they are!
8) ใช้ a/an กับวลีต่อไปนี้
ตัวอย่าง It’s a pity that she can’t come
He wants to keep this a secret
as a rule: to be in a hurry
to be in a good/bad temper
to tell a lie: all of a sudden
It’s a shame to do that : to take an interest in
to take a pride in: to take a dislike to
to make a fool of oneself : to be in a position to
to have a mind to
to have a chance : to have an opportunity to
at a discount/premium : on an average
a short time ago
นอกจากนี้ ยังใช้ a/an กับความเจ็บไข้ เช่น
To have a headache/ a pain/ a cold/ a cough
แต่ to have toothache/earache/rheumatism/influenza
9) ใช้กับโครงสร้างต่อไปนี้
such a : quite a: many a : rather a
Many a letter has passed my desk since last year
Mana is quite a good boy
He is rather a bad temper man
It’s such a nice day!
4.2 การใช้ Definite article (the)
ใช้ the นำหน้านามได้ที่ทั้งเป็นนามเอกพจน์ และพหูพจน์ และนามนับได้ หรือนามนับไม่ได้ โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
1) ใช้ the นำหน้านามซึ่งมีความหมายเฉพาะ โดยดูจาก that clause
This is the book that I bought for you
2) ใช้ the ในความหมายมีสิ่งเดียว
The sun rises in the east and sets in the west
The world : the equator : the universe
3) ชื่อเรือต่างๆ รถไฟ เครื่องบิน
The Queen May : The Comet
4) ชื่อที่เกี่ยวกับอาณาบริเวณภูมิศาสตร์
เราใช้ the กับคำว่า country, sea, seaside และ mountain แม้ว่าเราจะไม่ได้ชี้เฉพาะว่าเป็นทะเลใด หรือภูเขาแห่งไหน
I like to live in the country
I love the mountain, but I hate the sea
5) ชื่อสถานที่ เรามักใช้ the กับชื่อสถานที่ต่อไปนี้
แม่น้ำ the Chaopraya
มหาสมุทร the Pacific
อ่าว the Gulf of Thailand
ทะเลทราย the Sahara
ภูมิภาค the Middle East, the Midwest
โรงแรม the Oriental Hotel
สถาบัน the Midland Bank
โรงละคร the Playhouse
ชื่อร้าน the Central Department Store
ทะเล the Red Sea
หมู่เกาะ the Philippines (เกาะเดียวไม่ใช้ the)
เทือกเขา the Himalayas (ภูเขาเดียวไม่ใช้ the)
โรงภาพยนตร์ the Lido
6. ใช้กับหนังสือต่างๆ เข่น The Thairath, The Bangkok Post
7. ใช้กับชื่อครอบครัว เช่น The Smiths
8. ใช้ the กับสิ่งที่ได้กล่าวถึงมาแล้วครั้งหนึ่ง (ถ้ากล่าวถึงครั้งแรกให้ใช้ a/an
9. ใช้ the นำหน้านามซึ่งขยายด้วยบุพบทวลี เฃ่น the battle of Tungchang, the map of Bangkok
10. ใช้ the กับลำดับที่ในตำแหน่ง เช่น Queen Elizabeth the Second
11. ใช้ the นำหน้า common noun (นามที่ใช้เรียกชื่อทั่วๆ ไป) ที่ตามด้วยชื่อเฉพาะ ซึ่งมาขยาย common noun เช่น the planet Mar. the poet Sunthornpoo
นอกจากนี้ คำนามที่บอกเกี่ยวกับอาชีพ หรือการค้า และอยู่หลังชื่อเฉพาะให้ใช้ the นำหน้า เช่น Tawee, the bankder, Suda, the Personal Manager
12. ใช้ the กับชื่อประเทศที่มีคำว่า Union, United อยู่ หรือขึ้นต้นด้วย Repulbic, Kingdom รวมทั้งชื่อประเทศที่เป็นพหูพจน์ เช่น The United Kingdom, the Netherlands
และในกรณี common noun ซึ่งตามหลังชื่อทางภูมิศาสตร์ได้ถูกละไว้ ให้ใช้ the + ชื่อทางภูมิศาสตร์ นั้น The Sahara (ละ desert)
13 ช้ the กับชื่อของเครื่องดนตรีที่ใช้ในความหมายทั่วๆ ไป เช่น Preeya plays the piano. Kalong plays the ranard
14 ใช้ the นำหน้าคำคุณศัพท์ขั้สุดที่ขยายนาม เช่น This is the oldest person
15 ใฃ้ the หน้าคุณศัพท์ที่ใช้เป็นคำนาม หมายถึงสิ่งนั้นทั้งหมด และเป็นพหูพจน์ เช่น the rich, the poor, the brave
16 ใช้ the ในสำนวนที่เป็นการเปรียบเทียบขั้นกว่า 2 จำนวน
The harder you work, the more you will be paid
The more he gets, the more he wants
4.3 การไม่ใช้ Article
1. นำคำนาม ซึ่งใช้ในความหมายทั่วๆ ไป เช่น Life is very hard for some people
2. หน้าคำนามประเภท material ในความหมายทั่วๆ ไป เช่น Butter is made from cream
3. หน้าคำนามพหูพจน์ในความหมายทั่วๆ ไป เช่น Books are my best friends
4. หน้าคำนามที่เป็นชื่อมื้ออาหารทั่วๆ ไป เช่น Come to dinner/ breakfast/ lunch/ tea
5. หน้าชื่อเฉพาะ I walked in Hyde Park, Do you know the Regent Street?
6. หน้าทะเลสาป (Lake) แหลม (Cape) ภูเขา (mount) ยกเว้นเมื่อคำเหล่านี้มีคำว่า of ตามหลัง เช่น the lake of Lucene, the Cape of good hope
7.หน้าชื่อตำแหน่งตามด้วยชื่อเฉพาะ เช่น King George, Doctor Amnuay
8. ชื่อภาษา และชื่อวิชาต่างๆ เช่น She speaks French
9. ชื่อ วิทยุและโทรทัศน์ในความหมายทั่วๆ ไป
10. ไม่ใช้ article กับ Man หรือ Woman
11 สำนวนต่างๆ ที่ละ article เช่น go to school to stay at home. To be out of doors. The men work by day but not by night. He is indebt/ in trouble. At any break/sunset He did the work for love, not for money